สืบ
เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา นายหนูกาญจน์ อายุ 51 ปี
ซึ่งพิการทางสายตา มีอาชีพหากินด้วยการร้องเพลงตามผับบาร์ โดยมีน้องเป๊ปซี่
ลูกสาววัย 14 ปี คอยเป็นดวงตาพาเดิน ต่อมา ได้เข้าแจ้งความ
เนื่องจากลูกสาว ได้หายตัวไปจากบ้าน ตนไม่สามารถติดต่อได้
คาดว่าอาจไปกับชายหนุ่มที่ติดต่อกันผ่านโลกออนไลน์
ล่า
สุดเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเด็กหญิงหน้าตาคล้ายกับ ด.ญ.เก๋ ที่ตกเป็นข่าว
กำลังนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ตรงข้ามหมู่บ้านลา เบลล่า
คาซ่า ซอยบงกช หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จึงเดินทางไปตรวจสอบ และพบ
ด.ญ.เก๋ กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อจริง
เมื่อแสดงตัวน้องเก๋ก็มีท่าทีตื่นตกใจ แต่ก็ยอมพูดคุยและเล่าให้ฟังว่า
สาเหตุที่ต้องหนีออกจากห้องพักเพราะถูกพ่อพิการตาบอดดุด่าอย่างรุนแรงและไล่
ออกจากบ้าน จึงตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าหนีมาอยู่กับ นายบอย
เพื่อนชายคนสนิทวัย 17 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ที่ห้องเช่าย่านนี้
ซึ่งปัจจุบันชายหนุ่มไปทำงานเป็นคนงานก่อสร้างอยู่บนเกาะล้าน
นอกจากนี้ตัวเองโตเป็นสาวแล้วจึงรู้สึกอายมากที่จะต้องมาจูงมือพ่อตาบอดพาไป
ตระเวนร้องเพลงขอเศษเงินตามแหล่งชุมชน
ล่าสุดฝ่ายลูกสาวมีการเคลื่อนไหวออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวแล้ว ระบุข้อความว่า
"ไปอยู่ด้วยแล้วก็มีแต่บ่นแต่ด่าแต่ว่า
ทีหลังก็เป็นพ่อที่ดีของลูกหน่อยซิ เกิดมาเป็นคนอย่าเอาแต่ใจ
คือว่าหนูไม่ชอบนะ ถ้าจะให้กลับก็ไม่ต้องให้หนูพาไปร้องเพลงอีก
หนูโตเป็นสาวแล้วก็อายคนเขาเป็นนะ ไม่ใช่ไม่อาย พ่อมองไม่เห็นก็จริงอยู่
แต่ว่าพ่อไม่อาย หนูอายแทน ถ้าจะให้หนูกลับหนูไม่กลับหรอก
หนูไปเรียนดีกว่านะ อย่ามาหาหนูขี้เกียจนะ หนูอายเฉยๆ”

กระทั่งช่วง 01.00 น. ของวันที่ 2 เมษายน 2559
ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเด็กสาวคนดังกล่าว
กำลังอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อเจ้าหน้าที่ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
ก่อนจะพบเด็กหญิงนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อจริงๆ
เมื่อแสดงตัวเข้ามาพูดคุย เด็กหญิงมีอาการตกใจเล็กน้อย เผยว่า “ไม่
ประสงค์จะอยู่กับพ่อที่นี่อีกต่อไป
เหตุที่หนีออกมาเพราะถูกพ่อดุด่าอย่างรุนแรงและไล่ออกจากบ้าน
ตนจึงตัดสินใจเก็บข้าวของออกมา แล้วไปอยู่กับเพื่อนชายคนสนิท อายุ 17 ปี
น้องเป๊ปซี่ ยังบอกว่า ตนโตเป็นสาวแล้ว
รู้สึกอับอายที่ต้องจูงพ่อออกไปตระเวนร้องเพลงเช่นนั้น”
0 comments:
Post a Comment