เมื่อ
เวลา 11.00 น. วันที่ 3 ตุลาคม พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
พ.ต.อ.บรรจบ สีหานาวี รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชาณรงค์
มากพิสูทธิ์ รักษาการ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี
ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายทองใบ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาวหนองนาคำ อ.เมือง
จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาข่มขืนหญิงสูงอายุ
เหตุการณ์
เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา นายทองใบ
ได้ปีนหน้าต่างเข้าไปในบ้านนางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 62
ปี แล้วใช้กำลังบังคับข่มขืนนางน้อย โดยขู่ว่าหากขัดขืนจะทำร้ายจนเสียชีวิต
จากนั้นนายทองใบ ได้ข่มขืนนางน้อย จนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง
ก่อนหลบหนีไปยังได้ข่มขู่ว่าห้ามไปบอกใคร หากไปบอกจะกลับมาฆ่าให้ตาย
แต่นางน้อย ตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี
และญาติพี่น้องได้พาไปอาศัยที่อื่น
ก่อนที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ แต่นายทองใบ
ไหวตัวได้หลบหนีไปก่อน จนสืบทราบหลบมาอยู่ในซอยจินตคาม
เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงติดตามมาจับกุมตัวได้
ด้าน
นายทองใบ วงศ์สง่า หรือ แหมบ กล่าวว่า ตนเรียนจบแค่ชั้น ป.6
ทำงานเป็นลูกจ้างของบริษัทก่อสร้างติดตั้งเสาไฟฟ้า
และลูกจ้างแบกแผ่นยางพาราที่โรงงานยางพาราใกล้บ้าน
กระทั่งประสบอุบัติเหตุกระดูกแขนร้าวจึงเลิกทำงานหนัก
หันมารับจ้างทั่วไปและเล่นการพนันไฮโล
ไม่มีครอบครัวแต่มีกุมารทองที่ได้มาจากรุ่นพ่อ
ห้อยคอไว้เพื่อเป็นเสน่ห์เรียกสาวแก่แม่หม้าย
ทำให้มีสาวๆวัยกลางคนมาชอบพอกันหลายคน บางรายเป็นแม่หม้ายเสียพนันไฮโล
ก็มาขอหลับนอนกับตนเพื่อแลกงิน
ในหมู่บ้านมีสาวใหญ่ที่เป็นหม้ายมาติดพันประมาณ 4-5
คน.ซึ่งตนนั้นมีฉายาเรียกกันว่า "แหมบ กุมารทอง" แต่เมื่อถูกจับกุม
ตนจึงเอากุมารทองไปฝากไว้กับ นายตำรวจคนหนึ่ง
นาย ทองใบ ให้การต่ออีกว่า ตนยอมรับว่าเป็นคนติดกัญชา เคยถูกจับติดคุก 3 เดือนมาแล้ว และยังมีคดีอนาจาร หญิงสาว ซึ่งเป็นสมัยหนุ่มไปปลุกปล้ำหญิงสาว จนถูกแจ้งความจับ สำหรับผู้เสียหายรายนี้ มีบ้านพักอยู่ใกล้กับตน ก่อนหน้านี้ตนเคยแอบชอบลูกสาวของเหยื่อ แต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย กระทั่งไปมีครอบครัวมีลูกแล้วและเอาลูกมาฝากเลี้ยงไว้กับผู้เสียหายที่เป็น หม้ายผัวตาย เมื่อสองเดือนที่ผ่านมาแอบคบหาและมีความสัมพันธ์กัน แต่ที่แจ้งตำรวจจับเพราะทะเลาะกันโดยหาว่าตนมีผู้หญิงคนอื่น
จาก
การสอบสวนนายทองใบ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนมีความต้องการทางเพศสูง
และมีนิสัยชอบหญิงสูงอายุ โดยอ้างว่ามีกุมารทองทำให้หญิงสูงอายุมาชอบตัวเอง
และได้ก่อเหตุครั้งนี้ครั้งแรก แต่ที่ผ่านมาตนเคยถูกจับในข้อหาอนาจาร
โดยได้เข้ากอดหญิงสาวที่เป็นภรรยาของผู้อื่น ถูกศาลตัดสินจำคุก 6 เดือน
ทั้งนี้ ปฏิเสธว่าตนไม่เคยไปในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม
และในเขตจังหวัดของตำรวจภูธรภาค 7 ที่มีเหตุข่มขืนคนแก่
ซึ่งยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
ทั้ง
นี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น
โดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย
โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน
โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็นว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย"
0 comments:
Post a Comment