Saturday, April 30, 2016
Tuesday, April 26, 2016
Friday, April 22, 2016
แทบช็อก!! แม่ตื่นมาตี 4 เห็นผัวมีอะไรกับคนอื่น แต่เมื่อเห็นหน้าผู้หญิง ล้มทั้งยืนร้องไห้แทบไร้น้ำตา !???
2:53 AM
No comments
สลดใจ! ตำรวจสน.บางขุนเทียนบุกรวบพ่อขี้เมาข่มขืนลูกในไส้ วัย 17 ปี อ้างทำไปเพราะเมา-ไม่รู้ว่าเหยื่อเป็นลูก
เมื่อ เวลา 12.00 น. วันที่ 20 เม.ย.2559 พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.เอกลักษณ์ หมวกผัน สว.สส.สน.บางขุนเทียน และ ร.ต.อ.อาทิตย์ ชาตินักรบ รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน นำกำลังเข้าจับกุม นายสายัณ พิมพานิล อายุ 36 ปี ชาว จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.288/2559 ลงวันที่ 19 เม.ย.59 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน” โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าภายในซอยเอกชัย 35 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

โดย การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 18 เม.ย.2559 นางนวล (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ภรรยาของ นายนิล ผู้ต้องหาได้พา น.ส.นัท (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา กศน. ซึ่งเป็นบุตรสาว เข้าแจ้งความกับฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ว่า น.ส.นัท ถูกนายนิล พ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจาก นายนิล ซึ่งมีอาชีพเป็น รปภ.โรงงานแห่งหนึ่งย่านถนนเอกชัย เมาสุรากลับมาถึงบ้านพักตอนเวลาประมาณตีสองของวันเกิดเหตุ
จากนั้น นายนิล ได้พยายามขอร่วมหลับนอนกับนางนวล แต่ถูกปฏิเสธเพราะเป็นเวลาพักผ่อน กระทั่งเวลาตีสี่ นางนวลสะดุ้งตื่นมาเข้าห้องน้ำ พอเปิดไฟในห้องพัก กลับเห็นภาพสะเทือนใจที่ลูกสาวถูกสามี ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศ เลยทนไม่ไหวจึงพา น.ส.นัท เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อพาไปตรวจร่างกายและนำหลักฐานไปขออนุมัติหมายศาลและนำกำลังเข้าจับกุม ตัวได้ที่บ้านพัก
จากกการสอบสวนนายนิล ยอมรับทำไปเพราะความเมา และเกิดอารมณ์ทางเพศ โดยไม่รู้ตัวว่าเหยื่อเป็นลูกสาวของตัวเอง เบื้องต้นชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เมื่อ เวลา 12.00 น. วันที่ 20 เม.ย.2559 พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.เอกลักษณ์ หมวกผัน สว.สส.สน.บางขุนเทียน และ ร.ต.อ.อาทิตย์ ชาตินักรบ รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน นำกำลังเข้าจับกุม นายสายัณ พิมพานิล อายุ 36 ปี ชาว จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.288/2559 ลงวันที่ 19 เม.ย.59 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน” โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าภายในซอยเอกชัย 35 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

โดย การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 18 เม.ย.2559 นางนวล (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ภรรยาของ นายนิล ผู้ต้องหาได้พา น.ส.นัท (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา กศน. ซึ่งเป็นบุตรสาว เข้าแจ้งความกับฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ว่า น.ส.นัท ถูกนายนิล พ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจาก นายนิล ซึ่งมีอาชีพเป็น รปภ.โรงงานแห่งหนึ่งย่านถนนเอกชัย เมาสุรากลับมาถึงบ้านพักตอนเวลาประมาณตีสองของวันเกิดเหตุ
จากนั้น นายนิล ได้พยายามขอร่วมหลับนอนกับนางนวล แต่ถูกปฏิเสธเพราะเป็นเวลาพักผ่อน กระทั่งเวลาตีสี่ นางนวลสะดุ้งตื่นมาเข้าห้องน้ำ พอเปิดไฟในห้องพัก กลับเห็นภาพสะเทือนใจที่ลูกสาวถูกสามี ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศ เลยทนไม่ไหวจึงพา น.ส.นัท เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อพาไปตรวจร่างกายและนำหลักฐานไปขออนุมัติหมายศาลและนำกำลังเข้าจับกุม ตัวได้ที่บ้านพัก
จากกการสอบสวนนายนิล ยอมรับทำไปเพราะความเมา และเกิดอารมณ์ทางเพศ โดยไม่รู้ตัวว่าเหยื่อเป็นลูกสาวของตัวเอง เบื้องต้นชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ช็อกทั้งงาน !! งานฌาปนกิจศพใช้สิ่งนี้โปรยทาน ทำเอาชาวบ้านน้ำตาไหลตามๆกัน !!?
2:10 AM
No comments
กลาย
เป็นข่าวดัง ที่เมรุวัดชูประศาสนาราม ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์
ได้มีการจัดงานฌาปนกิจศพ คุณยายหอม พวงประยงค์ โดยหลังจากที่นำศพเข้าเตาเผา
ลูกหลานได้นิมนต์พระสงฆ์ สามเณร ที่บวชหน้าไฟ มาโปรยทาน
เพื่อเป็นการทำบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
โดย
มีความเชื่อว่าไม่อยากให้ดวงวิญญาณผู้วายชนเร่ร่อน
และการโปรยทานถือเป็นการบอกเจ้าที่เจ้าทาง เพื่อเป็นการซื้อทาง
ให้ดวงวิญญาณผ่านไปได้
งาน
งานฌาปนกิจศพมีผู้คนที่ไปร่วมงานกว่า 700 คน
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างแย่งกันอย่างสนุกสนาน โดยสิ่งของที่โปรยทานคือ
ห่อผ้าเช็ดหน้า ผ้าขาวม้า ผ้าไหม ฉลากชิงรางวัลใหญ่ คือพัดลมหลายรางวัล และ
ลูกมะกรูด ลูกมะนาว
จาก
การสอบถาม น.ส.รำไพ รำพิณีนิล หลานสาวคุณยายหอม พวงประยงค์ กล่าวว่า
สาเหตุที่ใช้ลูกมะกรูด มะนาว โปรยทาน เพื่อความหอมสมชื่อคุณยาย
ซึ่งบรรดาลูกหลาน พี่น้อง และญาติๆที่มาแย่งทานกัน
ก็จะได้สัมผัสความหอมของมะกรูดและมะนาว
ที่โปรยกลิ่นความหอมชดชื่นไปทั่วบริเวณ
โดย
ลูกมะกรูด มะนาว 1 ลูก มีราคาสูงถึง 20 บาท
เมื่อนำมาแลกรางวัลเป็นเงินได้ที่ตนเอง
ตนตั้งใจนำมาโปรยทานแจกไม่อั้นเพื่อทำบุญให้คุณยายหอม
ด้าน
นางกรธิดา บุญสุข ข้าราชการครูบำนาญ กล่าวว่า
ที่มาของการโปรยทานก็เปรียบเสมือนการโยนทานด้วยลูกมะพร้าวในสมัยโบราณ
จุดประสงค์อย่างแรกคือทาน เมื่อเก็บได้แล้วก็ไปแลกสตาง
เห็นคนนอนท่าแปลก พอไปดูใกล้ๆแทบสะดุ้ง เขาตายแล้วพอเหลือบไปเห็นข้างๆ นี่ละคือสาเหตุ !???
2:05 AM
No comments
ช่าง
สีที่เสาไห้ตายท่าแปลก ซื้อเหล้าดื่มแล้วไปนอนเปลเชือก
ก่อนตกลงมาตายในสภาพนอนคว่ำแต่หน้าหงายเชิด
คอเกี่ยวติดกับเชือกเปลถูกรัดจนขาดใจตาย คาดนอนพลิกแล้วพลัดตกลงมา...
วัน ที่ 20 เม.ย.59 พ.ต.ท.ธรรมรัตน์ ศรีบรรเทา สารวัตรสอบสวน สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต บริเวณริมทุ่งนา หมู่ 7 ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ ผกก.สภ.เสาไห้ แพทย์เวรรพ.เสาไห้ หน่วยกู้ภัยสว่างรัตนตรัย สระบุรี
ที่ เกิดเหตุ บริเวณหลังร้านล้างอัดฉีด ในพื้นที่หมู่ 7 ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ พบศพ นายพินพง สวนสวรรค์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ สภาพนอนคว่ำหน้า แต่ลำคอและศีรษะถูกเชือกเปลเกี่ยวแหงนขึ้น รัดแน่นจนขาดอากาศหายใจ
จากการสอบสวน นายวุฒิศักดิ์ ทองมาตย์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านหมู่ 15 ต.บ้านหัน อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เจ้าของร้าน ให้การว่า ตนเองได้มาเช่าที่เปิดร้านล้างอัดฉีด ได้ยินเสียงสุนัข ที่เลี้ยงไว้เห่า เลยเดินเข้าไปดู พบว่ามีคนนอนอยู่ลักษณะแปลกๆ เหมือนกับนอนเล่น แต่ทำไมถึงได้ไปนอนอยู่พื้นดิน จึงได้ไปเรียก แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นทราบว่า นายพินพง สวนสวรรค์ ผู้ตาย ทำงานอยู่ในอู่ทำสีรถยนต์ ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนตายได้ไปซื้อสุรามาดื่ม แล้วนอนที่เปล ก่อนจะมีคนมาพบว่าเสียชีวิต คาดว่า เมาสุราจนหลับไป แต่อาจพลิกร่างกายแล้วตัวหลุดตกลงบนพื้น ขณะที่ลำคอยังเกี่ยวติกอยู่กับเชือกเปล เป็นเหตุให้ถูกรัดคอจนขาดใจตาย จากการพลิกศพตรวจไม่พบบาดแผลใดๆ จึงนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาล ก่อนมอบศพให้ญาติ ไปจัดการตามประเพณีต่อไป.
วัน ที่ 20 เม.ย.59 พ.ต.ท.ธรรมรัตน์ ศรีบรรเทา สารวัตรสอบสวน สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต บริเวณริมทุ่งนา หมู่ 7 ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ ผกก.สภ.เสาไห้ แพทย์เวรรพ.เสาไห้ หน่วยกู้ภัยสว่างรัตนตรัย สระบุรี
ที่ เกิดเหตุ บริเวณหลังร้านล้างอัดฉีด ในพื้นที่หมู่ 7 ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ พบศพ นายพินพง สวนสวรรค์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ สภาพนอนคว่ำหน้า แต่ลำคอและศีรษะถูกเชือกเปลเกี่ยวแหงนขึ้น รัดแน่นจนขาดอากาศหายใจ
จากการสอบสวน นายวุฒิศักดิ์ ทองมาตย์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านหมู่ 15 ต.บ้านหัน อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เจ้าของร้าน ให้การว่า ตนเองได้มาเช่าที่เปิดร้านล้างอัดฉีด ได้ยินเสียงสุนัข ที่เลี้ยงไว้เห่า เลยเดินเข้าไปดู พบว่ามีคนนอนอยู่ลักษณะแปลกๆ เหมือนกับนอนเล่น แต่ทำไมถึงได้ไปนอนอยู่พื้นดิน จึงได้ไปเรียก แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นทราบว่า นายพินพง สวนสวรรค์ ผู้ตาย ทำงานอยู่ในอู่ทำสีรถยนต์ ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนตายได้ไปซื้อสุรามาดื่ม แล้วนอนที่เปล ก่อนจะมีคนมาพบว่าเสียชีวิต คาดว่า เมาสุราจนหลับไป แต่อาจพลิกร่างกายแล้วตัวหลุดตกลงบนพื้น ขณะที่ลำคอยังเกี่ยวติกอยู่กับเชือกเปล เป็นเหตุให้ถูกรัดคอจนขาดใจตาย จากการพลิกศพตรวจไม่พบบาดแผลใดๆ จึงนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาล ก่อนมอบศพให้ญาติ ไปจัดการตามประเพณีต่อไป.
บร๊ะเจ้า!! ทลายปาร์ตี้ พริตตี้-เสี่ยหนุ่ม 26 คน พอบุกไปเจอสภาพแบบนี้ ตร.ถึงกับผงะ
1:49 AM
No comments
ตร.เมือง
พัทยา ทลายปาร์ตี้ยาเค ขณะชาย-หญิง 26 ชีวิตกำลังแดนซ์อย่างเมามันส์
ตามจังหวะเสียงเพลงอยู่ในรีสอร์ตหรู ริมหาดจอมเทียน ตรวจค้นเจอยาเคซุกอยู่ 1
ถุง จับตรวจฉี่พบมีสีม่วงถึง 26 คน เผย เป็นกลุ่มชาย-หญิง
ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ มาเที่ยวงานวันไหลเมืองพัทยา
ก่อนเปิดห้องพักมั่วสุมเสพยาเสพติด หญิงสาวบางคนยังพบเป็นพริตตี้อีกด้วย
เมื่อ เวลา 03.00 น.วันที่ 20 เม.ย. พ.ต.อ. สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสาคร รองผกก.ป. พ.ต.ต.ศรัณยพงศ์ ใหมทองกุลธร สวป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามพิเศษ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจค้นห้องพักภายในรีสอร์ตวิลลา นาวิน ริมถนนชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบมีกลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิงจำนวนมากมาเช่ารีสอร์ต เปิดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติดแล้วยังเปิดเสียงเพลงดังสร้างความเดือดร้อนให้ ชาวบ้านข้างเคียง
จากการตรวจสอบพบเป็นรีสอร์ตหรู มีเสียงเพลงดังลั่นออกมานอกห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงจู่โจมเข้าตรวจค้นพบภายในมีห้องพัก 3 ห้อง มีสระน้ำล้อมรอบ โดยบริเวณริมสระน้ำหน้าห้องพักหลังกลาง มีกลุ่มชาย-หญิง นั่งดื่มกินสุราและเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลง แดนซ์อย่างเมามันส์ ส่วนในห้องพักอีก 2 หลัง ยังพบกลุ่มชาย-หญิงอีกจำนวนมาก นั่งล้อมวงดื่มสุราพูดคุยกันอยู่ จึงควบคุมตัวมารวมกันพบมีทั้งหมด 27 คน
จาก การตรวจค้นพบยาเคชนิดผงสีขาวตกอยู่ 1 ถุง โดยไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายทั้งหมด ปรากฏว่ามีสารเสพติดในร่างกายโดยปัสสาวะมีสีม่วง 26 คน จากการตรวจค้นตัวชายคนหนึ่งยังพบบัตรข้าราชการ ตำแหน่งสารวัตรกำนัน อยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม นอกจากนั้นยังมีหญิงสาววัยรุ่นอีกคน อ้างเป็นหลานสาวนายตำรวจระดับ ผู้บังคับการในพื้นที่ตำรวจนครบาล แต่ เจ้าหน้าที่ไม่สนใจนำตัวส่งร.พ.บางละมุง เพื่อตรวจสอบหาสารเสพติดอีกครั้ง ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบ สวนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิงทั้งหมด เดินทางจากกรุงเทพฯมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา และเล่นน้ำในช่วงวันไหลของเมืองพัทยา โดยเปิดห้องพักรีสอร์ตเป็นที่พักอาศัยและจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ส่วนหญิงสาวมีอาชีพเป็นพริตตี้รับงานอีเวนต์ทั่วไป
ต่อมา เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดกับกลุ่มชาย-หญิงทั้ง 26 คน ที่พบมีปัสสาวะสีม่วง จากนั้นส่งไปเข้ารับการบำบัดตามกฎหมาย ส่วนหญิงสาวที่อ้างตัวเป็นหลานสาวนายตำรวจ จากการตรวจสอบแล้วพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าว ไม่ได้เป็นญาติกับนายตำรวจระดับผู้การแต่อย่างใด
เมื่อ เวลา 03.00 น.วันที่ 20 เม.ย. พ.ต.อ. สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสาคร รองผกก.ป. พ.ต.ต.ศรัณยพงศ์ ใหมทองกุลธร สวป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามพิเศษ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจค้นห้องพักภายในรีสอร์ตวิลลา นาวิน ริมถนนชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบมีกลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิงจำนวนมากมาเช่ารีสอร์ต เปิดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติดแล้วยังเปิดเสียงเพลงดังสร้างความเดือดร้อนให้ ชาวบ้านข้างเคียง
จากการตรวจสอบพบเป็นรีสอร์ตหรู มีเสียงเพลงดังลั่นออกมานอกห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงจู่โจมเข้าตรวจค้นพบภายในมีห้องพัก 3 ห้อง มีสระน้ำล้อมรอบ โดยบริเวณริมสระน้ำหน้าห้องพักหลังกลาง มีกลุ่มชาย-หญิง นั่งดื่มกินสุราและเต้นไปตามจังหวะเสียงเพลง แดนซ์อย่างเมามันส์ ส่วนในห้องพักอีก 2 หลัง ยังพบกลุ่มชาย-หญิงอีกจำนวนมาก นั่งล้อมวงดื่มสุราพูดคุยกันอยู่ จึงควบคุมตัวมารวมกันพบมีทั้งหมด 27 คน
จาก การตรวจค้นพบยาเคชนิดผงสีขาวตกอยู่ 1 ถุง โดยไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายทั้งหมด ปรากฏว่ามีสารเสพติดในร่างกายโดยปัสสาวะมีสีม่วง 26 คน จากการตรวจค้นตัวชายคนหนึ่งยังพบบัตรข้าราชการ ตำแหน่งสารวัตรกำนัน อยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม นอกจากนั้นยังมีหญิงสาววัยรุ่นอีกคน อ้างเป็นหลานสาวนายตำรวจระดับ ผู้บังคับการในพื้นที่ตำรวจนครบาล แต่ เจ้าหน้าที่ไม่สนใจนำตัวส่งร.พ.บางละมุง เพื่อตรวจสอบหาสารเสพติดอีกครั้ง ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบ สวนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิงทั้งหมด เดินทางจากกรุงเทพฯมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา และเล่นน้ำในช่วงวันไหลของเมืองพัทยา โดยเปิดห้องพักรีสอร์ตเป็นที่พักอาศัยและจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ส่วนหญิงสาวมีอาชีพเป็นพริตตี้รับงานอีเวนต์ทั่วไป
ต่อมา เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดกับกลุ่มชาย-หญิงทั้ง 26 คน ที่พบมีปัสสาวะสีม่วง จากนั้นส่งไปเข้ารับการบำบัดตามกฎหมาย ส่วนหญิงสาวที่อ้างตัวเป็นหลานสาวนายตำรวจ จากการตรวจสอบแล้วพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าว ไม่ได้เป็นญาติกับนายตำรวจระดับผู้การแต่อย่างใด
แทบช็อก!! เห็นหนุ่มวัย 17 โดนตัดมือสองข้าง พอรู้สาเหตุที่โดน ทำเอาเลิกสงสาร !???
1:35 AM
No comments
เว็บไซต์ เดลีเมล์ ของอังกฤษ รายงานคุณพ่อชาวอินเดียสุดแค้น คนร้ายวัยรุ่นอายุ 17 ปี ก่อเหตุข่มขืนลูกวัยสาววัยเพียง 7 เดือนของตน จึงออกอุบายลวงไปซ้อมแล้วตัดมือ 2 ข้างทิ้ง ระหว่างผู้ก่อเหตุถูกนำตัวไปขึ้นศาลเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา
รายงาน ข่าวระบุว่าระหว่างที่ชายหนุ่มวัย 17 กำลังจะไปขึ้นศาลท้องถิ่นในเมืองบาทินดา รัฐปัญจาบ เพื่อพิจารณาคดีข่มขืนเด็กหญิงวัยเพียง 7 เดือน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อปี 2557 นายปาร์มินเดอร์ ซิงห์ วัย 25 พ่อของเหยื่อ ได้เข้ามาพูดคุยและหลอกเขาว่าจะขอไกล่เกลี่ยกันเองโดยไม่ต้องขึ้นศาล

ตำรวจเมืองบาทินดา กล่าวว่า พ่อของเด็กหญิงได้พาหนุ่มหื่นเดินไปริมคลองแห่งหนึ่ง จากนั้นกระหน่ำซ้อมจนน่วม แล้วจับมัดเข้ากับต้นไม้ ก่อนจัดการตัดมือทั้งสองข้างเพื่อเป็นการชำระแค้น ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์แจ้งตำรวจให้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งตำรวจได้นำตัวหนุ่มวัย 17 ปี พร้อมมือทั้ง 2 ข้างที่ถูกตัดขาด ส่งโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส และตอนนี้เขากลายเป็นคนพิการไร้มือไปแล้ว

ขณะที่นายซิงห์ได้หลบนีไป และตำรวจกำลังตามล่าตัวเพื่อมาดำเนินคดี ในข้อหาพยายามฆ่าต่อไป
ทั้งนี้การข่มขืนและละเมิดทางเพศถือเป็นปัญหาใหญ่ในอินเดีย โดยเฉพาะปี 2555 ปีเดียวมีรายงานคดีข่มขืนเกิดขึ้นสูงถึง 24,923 คดีเลยทีเดียว ขณะที่กระบวนการยุติธรรมก็ดำเนินการล่าช้า และบ่อยครั้งเกิดปัญหาคอร์รัปชั่นติดสนบนเจ้าหน้าที่เพื่อรอดพ้นจากการโดนลง โทษ ทำให้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อหันไปใช้วิธีการศาลเตี้ยแทน
แทบช็อก!! แม่ตื่นมาตี 4 เห็นผัวมีอะไรกับคนอื่น แต่เมื่อเห็นหน้าผู้หญิง ล้มทั้งยืนร้องไห้แทบไร้น้ำตา !???
1:32 AM
No comments
สลดใจ! ตำรวจสน.บางขุนเทียนบุกรวบพ่อขี้เมาข่มขืนลูกในไส้ วัย 17 ปี อ้างทำไปเพราะเมา-ไม่รู้ว่าเหยื่อเป็นลูก
เมื่อ เวลา 12.00 น. วันที่ 20 เม.ย.2559 พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.เอกลักษณ์ หมวกผัน สว.สส.สน.บางขุนเทียน และ ร.ต.อ.อาทิตย์ ชาตินักรบ รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน นำกำลังเข้าจับกุม นายสายัณ พิมพานิล อายุ 36 ปี ชาว จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.288/2559 ลงวันที่ 19 เม.ย.59 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน” โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าภายในซอยเอกชัย 35 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

โดย การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 18 เม.ย.2559 นางนวล (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ภรรยาของ นายนิล ผู้ต้องหาได้พา น.ส.นัท (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา กศน. ซึ่งเป็นบุตรสาว เข้าแจ้งความกับฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ว่า น.ส.นัท ถูกนายนิล พ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจาก นายนิล ซึ่งมีอาชีพเป็น รปภ.โรงงานแห่งหนึ่งย่านถนนเอกชัย เมาสุรากลับมาถึงบ้านพักตอนเวลาประมาณตีสองของวันเกิดเหตุ
จากนั้น นายนิล ได้พยายามขอร่วมหลับนอนกับนางนวล แต่ถูกปฏิเสธเพราะเป็นเวลาพักผ่อน กระทั่งเวลาตีสี่ นางนวลสะดุ้งตื่นมาเข้าห้องน้ำ พอเปิดไฟในห้องพัก กลับเห็นภาพสะเทือนใจที่ลูกสาวถูกสามี ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศ เลยทนไม่ไหวจึงพา น.ส.นัท เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อพาไปตรวจร่างกายและนำหลักฐานไปขออนุมัติหมายศาลและนำกำลังเข้าจับกุม ตัวได้ที่บ้านพัก
จากกการสอบสวนนายนิล ยอมรับทำไปเพราะความเมา และเกิดอารมณ์ทางเพศ โดยไม่รู้ตัวว่าเหยื่อเป็นลูกสาวของตัวเอง เบื้องต้นชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เมื่อ เวลา 12.00 น. วันที่ 20 เม.ย.2559 พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.เอกลักษณ์ หมวกผัน สว.สส.สน.บางขุนเทียน และ ร.ต.อ.อาทิตย์ ชาตินักรบ รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน นำกำลังเข้าจับกุม นายสายัณ พิมพานิล อายุ 36 ปี ชาว จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.288/2559 ลงวันที่ 19 เม.ย.59 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน” โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าภายในซอยเอกชัย 35 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

โดย การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 18 เม.ย.2559 นางนวล (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ภรรยาของ นายนิล ผู้ต้องหาได้พา น.ส.นัท (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา กศน. ซึ่งเป็นบุตรสาว เข้าแจ้งความกับฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ว่า น.ส.นัท ถูกนายนิล พ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจาก นายนิล ซึ่งมีอาชีพเป็น รปภ.โรงงานแห่งหนึ่งย่านถนนเอกชัย เมาสุรากลับมาถึงบ้านพักตอนเวลาประมาณตีสองของวันเกิดเหตุ
จากนั้น นายนิล ได้พยายามขอร่วมหลับนอนกับนางนวล แต่ถูกปฏิเสธเพราะเป็นเวลาพักผ่อน กระทั่งเวลาตีสี่ นางนวลสะดุ้งตื่นมาเข้าห้องน้ำ พอเปิดไฟในห้องพัก กลับเห็นภาพสะเทือนใจที่ลูกสาวถูกสามี ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าล่วงละเมิดทางเพศ เลยทนไม่ไหวจึงพา น.ส.นัท เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อพาไปตรวจร่างกายและนำหลักฐานไปขออนุมัติหมายศาลและนำกำลังเข้าจับกุม ตัวได้ที่บ้านพัก
จากกการสอบสวนนายนิล ยอมรับทำไปเพราะความเมา และเกิดอารมณ์ทางเพศ โดยไม่รู้ตัวว่าเหยื่อเป็นลูกสาวของตัวเอง เบื้องต้นชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
1:28 AM
No comments
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 เม.ย.
นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา สั่งการให้นายภควัตร ขันธหิรัญ
ปลัดอาวุโสอำเภอศรีราชา ประสานกับ พ.ต.อ.กรพัฒน์ หอมหวล
ผกก.สภ.บ่อวินและร.ท.พนิต เปรมานุพันธ์
หัวหน้าชุดประสานงานพื้นที่กองพลทหารราบที่ 21 กองพันทหารราบที่ 3
รักษาพระองค์ หลังจากได้รับรายงานจากสายลับว่า
ในพื้นที่ตำบลบ่อวินมีการจัดปาร์ตี้ยาเคกันเป็นกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว
ที่กลับจากเที่ยวสถานบันเทิงในพื้นที่พัทยา
แล้วมาเปิดห้องในรีสอร์ทหรูชื่อดังแห่งหนึ่ง เสพยาเคกันจำนวนหลายคน
หลังทางฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชาประสานงานวางแผนกับทางตำรวจ-ทหารแล้วจึงนำ
กำลังของฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชา ตำรวจ-ทหาร-ผู้นำท้องถิ่น จำนวน 40
นายบุกค้นภายในรีสอร์ทดัง ติดถนนสายปากร่วม-สะพานสี่ หมู่ 3 ต.บ่อวิน
อ.ศรีราชา

ตรวจ ค้นภายในห้อง A7 พบกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงกำลังมั่วสุมเสพยา และดื่มสุรากันอยู่ภายในห้อง รวมถึงพบอุปกรณ์เสพยาเคตกอยู่ตรวจสอบพบยาเคชนิดน้ำ 1 ขวด ยาเคผง 1 ถุง ยาอี1เม็ด และพบไมโครเวฟสำหรับอบยา 1 เครื่อง วางอยู่ภายในห้องโดยผู้ต้องหาที่พบในห้องเป็นชาย 6 คน หญิง 5 คน นำตัวตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติดทุกคน
โดยทั้งหมดให้การว่า ไปเที่ยวที่ผับในเมืองพัทยา กลับมาเกือบเช้าเลยมาเช่าห้องที่รีสอร์ทดังกล่าวปาร์ตี้ยาเคและดื่มสุรากัน เนื่องจากยังไม่สุด เลิกดื่มและเสพไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดให้การรับสาภาพว่า เสพยาเคกันจริง หลังจากนั้นนำกำลังเข้าตรวจค้นที่ห้อง A5 พบนายสมเจตน์ รักท้วม อายุ 32 ปี แสดงตัวเป็นผู้เช่าห้องและยังพบนายธนชัย เจริญสุข อายุ 29 ปี และน.ส.ปิยภัตร อินอุดม อายุ 25 ปีสองสามีภรรยาอยู่ในห้องด้วย และตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า แอลติสสีขาว หมายเลขทะเบียน ฏฬ-7196 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ที่ข้างห้องพักพบอาวุธปืนขนาด. 380 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 7 นัด อยู่ในรังเพลิงวางอยู่ในลิ้นชักใต้คอนโซลด้านหน้า และยาเคชนิดน้ำอีก 9 ขวด วางอยู่ในกล่องกระดาษวางที่เบาะด้านหน้า
นายสมเจตน์ รับสารภาพว่า เป็นเจ้าของอาวุธปืนและยาเคที่ตรวจพบ เมื่อนำตัวทั้งหมดไปตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติด โดยทั้งหมดให้การว่าไปเที่ยวในผับเมืองพัทยา แล้วไปเสพยาเคกันมาแล้วชักชวนเพื่อนชาย-หญิงที่ทางชุดจับกุมตรวจพบที่ห้องA7 มาเสพยาเคกันต่อที่รีสอร์ทแห่งนี้ เนื่องจากพบว่าไกลหูตาตำรวจ
ซึ่ง ผู้ต้องหาชายหญิงที่จับกุมเป็นเด็กในพื้นที่เครือสหพัฒน์-บางพระ-บางละมุง- ในตัวเมืองศรีราชาเกือบทั้งหมด โดยให้การกับทางตำรวจว่า เพิ่งมาเปิดปาร์ตี้ยาเคกันครั้งแรก แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาชาย-หญิงที่จับกุมได้ หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวทั้งหมด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ่อวิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตรวจ ค้นภายในห้อง A7 พบกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงกำลังมั่วสุมเสพยา และดื่มสุรากันอยู่ภายในห้อง รวมถึงพบอุปกรณ์เสพยาเคตกอยู่ตรวจสอบพบยาเคชนิดน้ำ 1 ขวด ยาเคผง 1 ถุง ยาอี1เม็ด และพบไมโครเวฟสำหรับอบยา 1 เครื่อง วางอยู่ภายในห้องโดยผู้ต้องหาที่พบในห้องเป็นชาย 6 คน หญิง 5 คน นำตัวตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติดทุกคน
โดยทั้งหมดให้การว่า ไปเที่ยวที่ผับในเมืองพัทยา กลับมาเกือบเช้าเลยมาเช่าห้องที่รีสอร์ทดังกล่าวปาร์ตี้ยาเคและดื่มสุรากัน เนื่องจากยังไม่สุด เลิกดื่มและเสพไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดให้การรับสาภาพว่า เสพยาเคกันจริง หลังจากนั้นนำกำลังเข้าตรวจค้นที่ห้อง A5 พบนายสมเจตน์ รักท้วม อายุ 32 ปี แสดงตัวเป็นผู้เช่าห้องและยังพบนายธนชัย เจริญสุข อายุ 29 ปี และน.ส.ปิยภัตร อินอุดม อายุ 25 ปีสองสามีภรรยาอยู่ในห้องด้วย และตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า แอลติสสีขาว หมายเลขทะเบียน ฏฬ-7196 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ที่ข้างห้องพักพบอาวุธปืนขนาด. 380 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 7 นัด อยู่ในรังเพลิงวางอยู่ในลิ้นชักใต้คอนโซลด้านหน้า และยาเคชนิดน้ำอีก 9 ขวด วางอยู่ในกล่องกระดาษวางที่เบาะด้านหน้า
นายสมเจตน์ รับสารภาพว่า เป็นเจ้าของอาวุธปืนและยาเคที่ตรวจพบ เมื่อนำตัวทั้งหมดไปตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติด โดยทั้งหมดให้การว่าไปเที่ยวในผับเมืองพัทยา แล้วไปเสพยาเคกันมาแล้วชักชวนเพื่อนชาย-หญิงที่ทางชุดจับกุมตรวจพบที่ห้องA7 มาเสพยาเคกันต่อที่รีสอร์ทแห่งนี้ เนื่องจากพบว่าไกลหูตาตำรวจ
ซึ่ง ผู้ต้องหาชายหญิงที่จับกุมเป็นเด็กในพื้นที่เครือสหพัฒน์-บางพระ-บางละมุง- ในตัวเมืองศรีราชาเกือบทั้งหมด โดยให้การกับทางตำรวจว่า เพิ่งมาเปิดปาร์ตี้ยาเคกันครั้งแรก แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาชาย-หญิงที่จับกุมได้ หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวทั้งหมด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ่อวิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ช็อกทั้งโรงพัก !! หนุ่มฆ่าสาวทิ้งเขาวังยอมปริปากบอกแล้ว ตำรวจถึงกับมึน ตายเพราะเงิน 20 จริงหรอเนี้ย!?
1:23 AM
No comments
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559
เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุจากชาวบ้านพบศพหญิงสาวถูกฆ่าเปลือยท่อนล่าง
มีการมัดมือมัดขา แล้วนำศพมาทิ้งบนเขาวัง อำเภอ เมือง จังหวัด เพชรบุรี
จากการไปตรวจสอบ ผู้ตายคือ นางสาว ธมลภรณ์ หอมหวน อายุ 19 ปี
ถูกทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลที่กะโหลกศีรษะถูกทุบ สภาพศพถูกมัดมือมัดเท้า
เปลือยท่อนล่างสืบเนื่อ
งจาก
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559
เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุจากชาวบ้านพบศพหญิงสาวถูกฆ่าเปลือยท่อนล่าง
มีการมัดมือมัดขา แล้วนำศพมาทิ้งบนเขาวัง อำเภอ เมือง จังหวัด เพชรบุรี
จากการไปตรวจสอบ ผู้ตายคือ นางสาว ธมลภรณ์ หอมหวน อายุ 19 ปี
ถูกทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลที่กะโหลกศีรษะถูกทุบ สภาพศพถูกมัดมือมัดเท้า
เปลือยท่อนล่าง

จาก
การตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมเสื้อฟ้า
ซึ่งทั้งคู่มีการนัดเจอมาเที่ยว ต่อมาเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559
ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายอดิเรก ศรีสัญญา อายุ 40 ปี
ขณะกำลังจะหลบหนีออกต่างจังหวัด
ทั้งนี้เจ้า
หน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำ นายอดิเรกสารภาพให้ฟังว่า
“ตนรู้จักกับมาก่อนหน้านี้เพียง 3 วัน จากนั้นผู้ตายมาขอเงินตน จึงให้ไป 20
บาท จากนั้นก็กลับมาขออีกแต่ตนไม่ให้
ผู้ตายไม่พอใจจึงพาพวกมารุมทำร้ายจนศีรษะแตก กระทั่งในวันเกิดเหตุ
ได้พบกับน.ส.ธมลภรณ์อีกครั้งที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
แต่น.ส.ธมลภรณ์กลับจำตนไม่ได้ พร้อมกับชวนตนไปเที่ยวงานวัดที่วัดพระนอน "
"เมื่อมาถึงสถานีรถไฟเพชรบุรี ตนได้เรียกรถจยย.รับจ้าง
ซ้อนกันไปเที่ยวที่วัด และตนก็ได้ดื่มสุราจนเมา จากนั้น
น.ส.ธมลภรณ์ได้ชวนไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยว
ตนจึงถามว่าจำตนได้หรือไม่คนที่เคยถูกตีจนหัวแตก พอได้ยินดังนั้น
น.ส.ธมลภรณ์ก็ตกใจและพยายามวิ่งหนี ตนจึงกระชากแขนไว้
พร้อมกับชกเข้าที่ใบหน้า 2 ครั้ง
จนน.ส.ธมลภรณ์ตกลงไปชั้นหินด้านล่างหัวกระแทกพื้น
พอตามไปดูก็พบว่าน.ส.ธมลภรณ์นอนแน่นิ่งหายใจรวยริน
เกรงว่าถ้าฟื้นขึ้นมาจะไปแจ้งความ
จึงได้นำร่างขึ้นมาแล้วถอดกางเกงมัดขาสองข้าง ถอดเสื้อชั้นในมัดมือไพล่หลัง
ก่อนหลบหนีไป
รู้ไว้ก่อนปลอดภัยก่อน 4 วิธีเด็ด ป้องกันไม่ให้งูเข้าบ้าน พบว่าได้ผลดีที่สุด (ชมคลิป)
1:06 AM
No comments
โดยธรรมชาติ
งูถือเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มนุษย์ต้องระวังเป็นอย่างมาก
เพราะหากเจอกับงูชนิดที่มีพิษเข้าไว้ แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ส่งผลดีแน่
เราอาจจะได้รับข่าวสารตามสื่อต่างๆอยู่บ่อย กรณีพบงูเข้าบ้าน
หากเกิดขึ้นกับบ้านของคุณล่ะ จะทำอย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลดีมาฝากกัน
ก่อนอื่นมาทำ ความรู้จักธรรมชาติของงูกันก่อนว่า งูเป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ที่มีความหลากหลายมากกว่า 200 ชนิด ในประเทศไทยมักอาศัยอยู่ตัวเดียวในธรรมชาติ ไม่มีการสร้างรังเพื่ออยู่อาศัย แต่มักจะเข้าไปอาศัยหลบอยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป ปลอดภัยจากศัตรู มีน้ำ มีอาหารกิน เช่น เข้าไปหลบอยู่ใต้รอยทรุดของตัวบ้านหรืออาคาร หรือกองวัสดุที่ไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน และออกมาหาหนู กบ จิ้งจก ในบริเวณใกล้เคียงกินเป็นอาหาร
การเจองูใน บริเวณบ้าน มักมีสาเหตุจากการที่งูเข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณบ้าน เช่น ในรอยทรุดใต้ตัวบ้าน โพรงใต้กำแพงรั้ว หรือเพดาน อีกทั้งในบริเวณบ้านมีสัตว์ที่เป็นเหยื่อของงูอยู่มาก เช่น หนู กบ จิ้งจก เป็นต้น หรืออาจเป็นเพียงการเลื้อยผ่านเข้ามาโดยไม่มีวัตถุประสงค์ ดังนั้นกรณีที่พบงูในบริเวณบ้านจึงควรมีหลักปฏิบัติดังนี้
1. ตั้งสติให้ดีๆ อย่าตื่นตกใจ และอย่าพยายามเข้าไปจับหรือตีงูเด็ดขาด เพราะอาจพลาดถูกงูกัดได้
2. หากพบงูกำลังเลื้อยผ่านในบริเวณที่โล่ง เช่น สนามหญ้า หรือลานนอกตัวบ้าน ให้ปล่อยให้งูเลื้อยออกไปจากบริเวณบ้านเอง เพราะโดยธรรมชาติแล้วงูจะไม่เข้าทำร้ายมนุษย์ก่อนถ้าไม่ถูกรบกวน
3. ถ้าพบงูซ่อนตัวในบริเวณบ้าน หรือไม่มีทีท่าจะเลื้อยออกไปข้างนอก ให้พยายามกันให้งูอยู่ในบริเวณที่จำกัดและเห็นได้ชัดเจน และอย่าพยายามรบกวนให้งูตื่นตกใจ
ก่อนอื่นมาทำ ความรู้จักธรรมชาติของงูกันก่อนว่า งูเป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ที่มีความหลากหลายมากกว่า 200 ชนิด ในประเทศไทยมักอาศัยอยู่ตัวเดียวในธรรมชาติ ไม่มีการสร้างรังเพื่ออยู่อาศัย แต่มักจะเข้าไปอาศัยหลบอยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป ปลอดภัยจากศัตรู มีน้ำ มีอาหารกิน เช่น เข้าไปหลบอยู่ใต้รอยทรุดของตัวบ้านหรืออาคาร หรือกองวัสดุที่ไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน และออกมาหาหนู กบ จิ้งจก ในบริเวณใกล้เคียงกินเป็นอาหาร
การเจองูใน บริเวณบ้าน มักมีสาเหตุจากการที่งูเข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณบ้าน เช่น ในรอยทรุดใต้ตัวบ้าน โพรงใต้กำแพงรั้ว หรือเพดาน อีกทั้งในบริเวณบ้านมีสัตว์ที่เป็นเหยื่อของงูอยู่มาก เช่น หนู กบ จิ้งจก เป็นต้น หรืออาจเป็นเพียงการเลื้อยผ่านเข้ามาโดยไม่มีวัตถุประสงค์ ดังนั้นกรณีที่พบงูในบริเวณบ้านจึงควรมีหลักปฏิบัติดังนี้
1. ตั้งสติให้ดีๆ อย่าตื่นตกใจ และอย่าพยายามเข้าไปจับหรือตีงูเด็ดขาด เพราะอาจพลาดถูกงูกัดได้
2. หากพบงูกำลังเลื้อยผ่านในบริเวณที่โล่ง เช่น สนามหญ้า หรือลานนอกตัวบ้าน ให้ปล่อยให้งูเลื้อยออกไปจากบริเวณบ้านเอง เพราะโดยธรรมชาติแล้วงูจะไม่เข้าทำร้ายมนุษย์ก่อนถ้าไม่ถูกรบกวน
3. ถ้าพบงูซ่อนตัวในบริเวณบ้าน หรือไม่มีทีท่าจะเลื้อยออกไปข้างนอก ให้พยายามกันให้งูอยู่ในบริเวณที่จำกัดและเห็นได้ชัดเจน และอย่าพยายามรบกวนให้งูตื่นตกใจ
Wednesday, April 20, 2016
ดูไว้เลย! 5 สิ่งนี้ต้องมีก่อนอายุ 30 รีบซะ ถ้าไม่อยากลำบาก หลังสงกรานต์นี้แล้ว คุณจะมีชีวิตใหม่ที่ดีอย่างแน่นอน!
2:56 AM
No comments
ปัจจุบัน
การเป็นอยู่ เราควรคำนึงไว้อย่างก่อน ถ้าไม่อยากลำบากในอนาคตอันใกล้นี้
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อน อายุ 30 มีดังต่อไปนี้ พุทธศาสนาท่านสอนไว้ 4ตอ
เตรียมตัวก่อนตาย เตรียมกายก่อนแต่ง เตรียมน้ำก่อนแล้ง เตรียมแบงค์ก่อนจะเดินทาง
สิ่งที่ที่ต้องเตรียมตอนนี้คือ ถ้าไม่อยากลำบากในอนาคต
1. ต้องมีที่มารายได้ที่แน่นอนและต่อเนื่อง
ไม่
ว่าจะเป็นงานประจำ งานอิสระ หรือธุรกิจส่วนตัว
อย่างน้อยต้องเป็นสิ่งที่สามารถสร้างรายได้ประจำให้คุณได้อย่างสม่ำเสมอ
การมีที่มาที่ไปของการเงินที่แน่นอนนั้น
ทำให้คุณเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือในแง่ของหลักฐานการเงิน
โดยเฉพาะเมื่อต้องยื่นกู้สินเชื่อต่างๆ
กับธนาคารเพื่อการสร้างเนื้อสร้างตัว เมื่อคุณมีอายุ 30
และมีความมั่นคงทางการงานและการเงินแล้ว คุณจะมีรากฐานชีวิตที่แน่นเพียงพอ
และพร้อมก้าวเดินสู่วัยเลข 4 อย่างมั่นคง
2. ต้องเตรียมเงินเก็บไว้ยามฉุกเฉิน
นับ
ตั้งแต่เราเกิด ก็คือการนับเวลาถอยหลังสู่ความชรา ดังนั้นเมื่อ “อายุเพิ่ม”
ก็เหลือเวลาหาเงิน “ลดลง”
การสร้างเป้าหมายในการเก็บเงินและมีวินัยในแต่ละเดือนตั้งแต่อายุ 30
จะทำให้คุณประหลาดใจกับเงินก้อนที่เก็บได้
นอกจากการเก็บเงินแล้วคุณควรหาวิธีทำให้เงินเก็บงอกเงยขึ้นเพื่อต่อยอดต่อไป
ซึ่งเมื่อถึงภาวะคับขัน เช่น เจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ หรือครอบครัวตกยาก
คุณก็พร้อมรับมือและช่วยเหลือคนใกล้ตัวได้ทันท่วงที
3. ต้องเริ่มรู้จักการบริหารหนี้
“ความ
ไม่มีหนี้ คือ ลาภอันประเสริฐ” ซึ่งหากพูดถึงคำว่าหนี้แล้ว หนี้จะมีอยู่ 2
ลักษณะด้วยกันคือ “หนี้ดี” กับ “หนี้ไม่ดี” การบริหารหนี้
ถือเป็นทักษะที่คุณควรสนใจศึกษาและมีวินัยตั้งแต่เนิ่นๆ และเป็นหนี้
“เมื่อพร้อมมีภาระในระยะยาวเท่านั้น” ซึ่งหนี้ที่ก่อก็ควรเป็น “หนี้ดี”
เท่านั้น เช่น บ้าน ที่ดิน หรือ ซื้อธุรกิจเพื่อต่อยอด
ซึ่งภาระหนี้ควรสอดคล้องกับรายได้ของคุณ นั่นคือ ไม่ควรเกินกว่า 50%
ของรายได้ประจำ
4. ต้องซื้อบ้านก่อนซื้อรถ
ยิ่ง
ซื้อบ้านเร็วตั้งแต่ก่อนอายุ 30 ปีมีแต่ได้เปรียบ
ทั้งในเรื่องระยะเวลาการผ่อนที่ได้มากกว่า ยอดการผ่อนที่น้อยกว่า
และมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นทุกปี การกู้ซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงอายุก่อน 30
ปีนั้น แม้คุณอาจจะต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านทุกๆ เดือน
แต่ความเป็นเจ้าของที่คุณมีจะมาถึงเร็วกว่าคนอายุ 40 ปี
จากเงินต้นที่หักหนี้ไป รวมถึงมูลค่าบ้านและที่ดินที่สูงขึ้นในแต่ละปี
แต่การซื้อรถนั้น มีแต่จะ “ลดมูลค่า”
ตามความเสื่อมและมีค่าใช้จ่ายเป็นเบี้ยหัวแตกไปกับค่าน้ำมันและค่าบำรุง
รักษาตลอดการใช้งาน
5. ต้องคิดคูณสองเรื่องครอบครัว
ปัจจุบัน
แม้จะเป็นเทรนด์ที่คนอาจจะแต่งงานมีครอบครัวกันช้า
แต่การบริหารการเงินและชีวิตมากกว่า 2 คนขึ้นไปโดยเฉพาะเมื่อมีบุตรด้วยแล้ว
“ไม่ใช่เรื่องง่าย” และมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
ดังนั้นการเตรียมพร้อมเรื่องการเงินจึงควรวางแผนตั้งแต่คุณอยู่ตัวคนเดียว
วิธีคิดคือคุณควรใช้ชีวิตก่อนวัย 30 ปี ด้วยการคิดคูณสองในทุกๆ มิติ เช่น
การเก็บเงิน การซื้อที่อยู่อาศัย การซื้อรถ และการก่อหนี้ เพราะเมื่อถึงวัย
30 และคุณมีการวางแผนชีวิตในด้านต่างๆ ที่ดี
คุณก็พร้อมที่จะดูแลคู่ชีวิตและเลี้ยงดูครอบครัวด้วยความมั่งคง
ล้มทั้งยืน!! ปล่อยแฟนไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว หายนะเกิดขึ้น เมื่อแฟนไปทำแบบนี้??
2:47 AM
No comments
เรื่องราวความรัก..เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใคร บทจะไป บทจะมา
ไม่มีใครรู้ตัว และบทจะถูกทิ้งก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเจอ
และอยากจะสัมผัสความรู้สึกนั้นเช่นกัน
เฉกเช่นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้แชร์ประสบการณ์อันแสนเศร้า
เมื่อเธอต้องนอนอยู่ในเรือนหอคนเดียว ในคืนแต่งงาน..
เหตุเพราะว่าผู้ชายที่คบหาดูใจกันมา 7 ปี กลับทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
เพียงเพราะเจอสาวคาราโอเกะแค่ 1 วันเท่านั้น
โดยเธอได้โพสต์เล่า เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 บอกว่า ใน วันดังกล่าวเธอต้องเป็นเจ้าสาวและต้องได้แต่งงาน เธอกับแฟนฝันว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน ช่วยกันสร้างฐานะ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด 7 ปี 6 เดือน วันที่ไม่มีเงินสักบาทก็นอนกอดกันร้องไห้ วันที่มีความสุขก็ดูแลซึ่งกันและกัน จนมาถึงวันหนึ่ง ความรักสุกงอม ฝ่ายชายก็ได้คุยกับเธอเรื่องแต่งงาน...
เธอรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ฝ่ายชายรักเธอมากขนาดนี้ นั่งเครื่องบินมาสู่ขอเธอที่ จ.สุราษฎร์ธานี เธอตื่นเต้นและดีใจสุด ๆ แต่คนที่ดีใจกว่าเธอนั้นก็คือพ่อแม่ ที่ยิ้มกว้างมาก ๆ เมื่อมีผู้ชายที่บอกว่ารักและอยากจะอยู่กับเราตลอดชีวิต จนในที่สุดเธอก็ได้ฤกษ์งานแต่งคือวันที่ 19 มกราคม 2559 พอได้ฤกษ์ก็ถึงขั้นตอนการแต่งงาน จองเต็นท์ จองอาหาร บอกเพื่อนและญาติพร้อมหมดแล้ว
แต่แล้วความฝันของเธอก็ต้องสลาย เมื่ออยู่ ๆ ฝ่ายชายแปลกไป สืบเนื่องจากฝ่ายชายขออนุญาตไปหาเพื่อนที่ จ.ระยอง เพื่อไปชวนเพื่อนเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ก็ไปเจอสาวคาราโอเกะ และสานสัมพันธ์รักกัน ตั้งแต่วันนั้น (เดือนตุลาคม 2558) ฝ่ายชายก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งเธอเปิดมือถือของฝ่ายชายก็พบว่า สาวคาราโอเกะได้ส่งข้อความให้โอนเงินมาให้ เธอตกใจและโทรไปคุยกับฝ่ายนั้นทันที พร้อมกับบอกว่าเธอกับฝ่ายชายกำลังจะแต่งงานกัน ซึ่งสาวคาราโอเกะก็รับรู้ ส่วนเธอก็คิดว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดี
แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะสาว คาราโอเกะยังส่งข้อความมาออดอ้อนมาขอเงิน พร้อมโทรมาเยาะเย้ยเธอว่า "พี่เขาเลือกหนู" จนเธอทนไม่ไหวขอกลับบ้านเพื่อตั้งสติ เธอยอมทำทุกอย่าง ทั้งกราบ กอด และยื้อ แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายผู้ชายก็ไปอยู่กับสาวคาราโอเกะ เธอรอการกลับมาของเขาถึง 3 เดือน และสุดท้ายในวันที่ 19 มกราคม ซึ่งเป็นกำหนดวันแต่งงานของเธอ ทำให้เธอยอมรับความจริงได้ว่า... วันนี้เธอไม่มีเขาแล้ว และต้องหยุดเรื่องนี้เอาไว้ทุกอย่าง เพื่อเริ่มต้นใหม่อย่างแข็งแรง หลังจากนี้เราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก
อย่าง ไรก็ตาม ชาวเน็ตต่างให้กำลังใจฝ่ายหญิงเป็นจำนวนมาก พร้อมบอกว่าถึงเป็นความจริงที่แสนเศร้าแต่เราก็ต้องเริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเอง
โดยเธอได้โพสต์เล่า เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 บอกว่า ใน วันดังกล่าวเธอต้องเป็นเจ้าสาวและต้องได้แต่งงาน เธอกับแฟนฝันว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน ช่วยกันสร้างฐานะ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด 7 ปี 6 เดือน วันที่ไม่มีเงินสักบาทก็นอนกอดกันร้องไห้ วันที่มีความสุขก็ดูแลซึ่งกันและกัน จนมาถึงวันหนึ่ง ความรักสุกงอม ฝ่ายชายก็ได้คุยกับเธอเรื่องแต่งงาน...
เธอรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ฝ่ายชายรักเธอมากขนาดนี้ นั่งเครื่องบินมาสู่ขอเธอที่ จ.สุราษฎร์ธานี เธอตื่นเต้นและดีใจสุด ๆ แต่คนที่ดีใจกว่าเธอนั้นก็คือพ่อแม่ ที่ยิ้มกว้างมาก ๆ เมื่อมีผู้ชายที่บอกว่ารักและอยากจะอยู่กับเราตลอดชีวิต จนในที่สุดเธอก็ได้ฤกษ์งานแต่งคือวันที่ 19 มกราคม 2559 พอได้ฤกษ์ก็ถึงขั้นตอนการแต่งงาน จองเต็นท์ จองอาหาร บอกเพื่อนและญาติพร้อมหมดแล้ว
แต่แล้วความฝันของเธอก็ต้องสลาย เมื่ออยู่ ๆ ฝ่ายชายแปลกไป สืบเนื่องจากฝ่ายชายขออนุญาตไปหาเพื่อนที่ จ.ระยอง เพื่อไปชวนเพื่อนเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ก็ไปเจอสาวคาราโอเกะ และสานสัมพันธ์รักกัน ตั้งแต่วันนั้น (เดือนตุลาคม 2558) ฝ่ายชายก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งเธอเปิดมือถือของฝ่ายชายก็พบว่า สาวคาราโอเกะได้ส่งข้อความให้โอนเงินมาให้ เธอตกใจและโทรไปคุยกับฝ่ายนั้นทันที พร้อมกับบอกว่าเธอกับฝ่ายชายกำลังจะแต่งงานกัน ซึ่งสาวคาราโอเกะก็รับรู้ ส่วนเธอก็คิดว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดี
แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะสาว คาราโอเกะยังส่งข้อความมาออดอ้อนมาขอเงิน พร้อมโทรมาเยาะเย้ยเธอว่า "พี่เขาเลือกหนู" จนเธอทนไม่ไหวขอกลับบ้านเพื่อตั้งสติ เธอยอมทำทุกอย่าง ทั้งกราบ กอด และยื้อ แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายผู้ชายก็ไปอยู่กับสาวคาราโอเกะ เธอรอการกลับมาของเขาถึง 3 เดือน และสุดท้ายในวันที่ 19 มกราคม ซึ่งเป็นกำหนดวันแต่งงานของเธอ ทำให้เธอยอมรับความจริงได้ว่า... วันนี้เธอไม่มีเขาแล้ว และต้องหยุดเรื่องนี้เอาไว้ทุกอย่าง เพื่อเริ่มต้นใหม่อย่างแข็งแรง หลังจากนี้เราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก
อย่าง ไรก็ตาม ชาวเน็ตต่างให้กำลังใจฝ่ายหญิงเป็นจำนวนมาก พร้อมบอกว่าถึงเป็นความจริงที่แสนเศร้าแต่เราก็ต้องเริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเอง
เอาละสิ!! 2 สาวรุมตบเด็ก ม.ต้นจนลงไปนอนชักกระตุก ออกมาโพสต์แบบนี้ เหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย ดูเอา!???
2:40 AM
No comments
(10 เม.ย.) โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปของ เฟซบุ๊ก อาม คนเดิม เผยให้เห็นภาพของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้นคนหนึ่ง ถูกเด็กสาววัยรุ่นอีก 2 คนใช้กำลังรุมตบตี กระชากผม ใช้เท้าเตะกระทืบ จนได้รับบาดเจ็บ จมูกหัก และมีอาการชัก
หลังจากนั้นโดยฝ่ายที่เป็นผู้ลงมือออกมาชี้แจงว่า เคยมีเรื่องกันมาก่อน และอ้างว่าเด็กหญิงคนนี้เอาเคยเอามีดมาขู่หน้าบ้านเพื่อน ตน แล้วยังโพสต์ข้อความเหมือนท้าตบ อีกทั้งยังระบุว่าจมูกของฝ่ายนั้นหักอยู่ก่อนแล้ว ตนแค่เตะหน้าผากไม่ได้เตะจมูก ถ้าผู้บาดเจ็บไม่มาท้าทายตนก็คงไม่ทำ

จาก นั้นมีญาติของเด็กที่ถูกทำร้าย ออกมาเปิดเผยว่า เด็กมีโรคประจำตัวมาตั้งแต่เด็ก ในวันที่เกิดเรื่องนั้นทางครอบครัวพาส่งโรงพยาบาล และหากมาช้าอาจจะทำให้สมองพิการได้ พร้อมกันนี้ผู้ปกครองของเด็กที่ถูกทำร้ายยังได้เรียกร้องค่าเสียหายจากอีก ฝ่ายเป็นเงิน 2 หมื่นบาท แต่อีกฝ่ายไม่ยอมง่ายๆ ขอต่อรองเหลือ 5 พันบาท อีกทั้งยังทำเหมือนไม่รูสึกผิดใดๆ ซึ่งทางครอบครัวเตรียมจะไปแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
หลังจากนั้นโดยฝ่ายที่เป็นผู้ลงมือออกมาชี้แจงว่า เคยมีเรื่องกันมาก่อน และอ้างว่าเด็กหญิงคนนี้เอาเคยเอามีดมาขู่หน้าบ้านเพื่อน ตน แล้วยังโพสต์ข้อความเหมือนท้าตบ อีกทั้งยังระบุว่าจมูกของฝ่ายนั้นหักอยู่ก่อนแล้ว ตนแค่เตะหน้าผากไม่ได้เตะจมูก ถ้าผู้บาดเจ็บไม่มาท้าทายตนก็คงไม่ทำ

จาก นั้นมีญาติของเด็กที่ถูกทำร้าย ออกมาเปิดเผยว่า เด็กมีโรคประจำตัวมาตั้งแต่เด็ก ในวันที่เกิดเรื่องนั้นทางครอบครัวพาส่งโรงพยาบาล และหากมาช้าอาจจะทำให้สมองพิการได้ พร้อมกันนี้ผู้ปกครองของเด็กที่ถูกทำร้ายยังได้เรียกร้องค่าเสียหายจากอีก ฝ่ายเป็นเงิน 2 หมื่นบาท แต่อีกฝ่ายไม่ยอมง่ายๆ ขอต่อรองเหลือ 5 พันบาท อีกทั้งยังทำเหมือนไม่รูสึกผิดใดๆ ซึ่งทางครอบครัวเตรียมจะไปแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
ด่วนล่าสุด!! "เน วัดดาว" เอาปืนจ่อขมับยิงตัวตาย แท้ที่จริงไม่เป็นอย่างที่คิด ตร.สืบแล้ว เรื่องจริงเป็นแบบนี้ !???
2:32 AM
No comments
จากกรณีที่ นายมัครินทร์ พุ่มสะอาด หรือเนวัดดาว อายุ 26 ปี
เน็ตไอดอลในสื่อโซเชียล ได้ทำการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ขณะที่ตน
ใช้ปืนยิงขมับตัวเองและล้มลง พร้อมทั้งตัดพ้อปัญหาที่รุมเร้า
ผ่านเฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก
จากนั้นเวลาต่อมาภาพดังกล่าวได้ถูกลบออกไป
ซึ่งมีการยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และได้มีการนำตัวเน
วัดดาว ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช

ทั้งนี้ ข้อมูลที่พบว่ามีการเผยแพร่ในโซเชี่ยล ที่อ้างว่า เน วัดดาว ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Wannapa Pongson" ที่ระบุว่าเป็นเจ้านายของ เน วัดดาว อัดคลิปส่งตรงจากหน้าห้องฉุกเฉิน ยืนยันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ขณะนี้ เน วัดดาว อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว พร้อมกับวิงวอนให้สังคมเข้าใจและเห็นใจ คนที่กำลังเผชิญกับปัญหาและคิดสั้น
ขณะที่เฟซบุ๊กชื่อ "ฉันชื่อ แสน หน่านาหน่าน๊าา" ได้โพสต์ข้อความบางอย่างเกี่ยวกับกรณีนี้ ระบุว่า "จริงๆ เนส่งสัญญาณให้คนรอบข้างมาเรื่อยๆ ว่าจิตใจย่ำแย่ แต่ไม่นึกว่าเนจะมาถึงจุดนี้ หลังรักษาตัวแล้ว ต้องพาเนไปหาจิตแพทย์ด้วย ให้เขาไปคุยกับนักจิตวิทยา เรื่องปมต่างๆ ที่เครียดอยู่ ที่สำคัญภรรยาต้องอยู่ข้างๆ ตลอด เราว่าเน วัดดาว มีภาวะอาการโรคซึมเศร้า ต้องรีบรักษา เพราะเน อ่อนแอมากตอนนี้"
ส่วนเฟซบุ๊กชื่อ "ชนิกานต์ แก้วสิงห์" ซึ่งระบุว่าเป็นภรรยาของเน วัดดาว ออกมาเปิดเผยว่า "เนชอบทำร้ายตัวเองตั้งแต่ก่อนคบกันแล้ว เป็นมานานมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี เวลาเครียดจะสติแตก เนเคยมีบัตรผู้ป่วยบำบัดทางจิตมาก่อน ตอนนี้ได้พบจิตแพทย์แล้ว หมอสั่งให้เข้าบำบัด แต่ยังไม่ยอม จึงต้องย้ายไปโรงพยาบาลอื่น ยังไม่ให้กลับบ้าน เพราะกลัวทำอะไรตัวเองอีก
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 16 เม.ย. พ.ต.ท.วรสรรค์ แสนสุข รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนญาติๆ นายมัครินทร์ หรือเน วัดดาว ให้การว่า เหตุเกิดช่วงเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมาพบว่า เน วัดดาว นั่งอยู่บนเตียงภายในห้องนอนและที่ขมับขวา มีเลือดไหล จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ศิริราช ซึ่งจากการตรวจสอบภายในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ไม่พบอาวุธปืน ร่องรอยกระสุนปืน และคราบเลือดแต่อย่างใด จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมใกล้ที่เกิดเหตุก็ไม่มีใครได้ยินเสียงปืนดัง ส่วนบาดแผลที่ขมับขวานั้น ทางแพทย์ไม่ได้ระบุว่าเป็นบาดแผลจากอาวุธปืน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เดินทางไปเพื่อสอบปากคำ เน วัดดาว ที่โรงพยาบาลมนารมย์ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ถ้าหากเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ต้องเป็นการสร้างกระแส เนื่องจาก เน วัดดาว เป็นหนึ่งในเน็ตไอดอล และมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก สำหรับภาพที่ปรากฎในสังคมออนไลน์ หลังจากนั้นก็พบว่าภาพวีดิโอดังกล่าวถูกลบออกไป อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นการสร้างกระแส หรือเป็นเรื่องจริง เน วัดดาว จะต้องถูกดำเนินตามกฎหมาย ในกรณีที่เผยแพร่ภาพในกล่าวในสื่อออนไลน์
พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย กล่าวว่า ตนได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากทางโซเชี่ยล ทำร้ายตัวเองบริเวณใบหน้า และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช พบว่า นายมัครินทร์ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าหน้าโรงพยาบาลศิริราช จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมนารมย์ ย่านบางนา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีการรักษาผู้ป่วยทางจิตและยาเสพติด

ทั้งนี้ ข้อมูลที่พบว่ามีการเผยแพร่ในโซเชี่ยล ที่อ้างว่า เน วัดดาว ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Wannapa Pongson" ที่ระบุว่าเป็นเจ้านายของ เน วัดดาว อัดคลิปส่งตรงจากหน้าห้องฉุกเฉิน ยืนยันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ขณะนี้ เน วัดดาว อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว พร้อมกับวิงวอนให้สังคมเข้าใจและเห็นใจ คนที่กำลังเผชิญกับปัญหาและคิดสั้น
ขณะที่เฟซบุ๊กชื่อ "ฉันชื่อ แสน หน่านาหน่าน๊าา" ได้โพสต์ข้อความบางอย่างเกี่ยวกับกรณีนี้ ระบุว่า "จริงๆ เนส่งสัญญาณให้คนรอบข้างมาเรื่อยๆ ว่าจิตใจย่ำแย่ แต่ไม่นึกว่าเนจะมาถึงจุดนี้ หลังรักษาตัวแล้ว ต้องพาเนไปหาจิตแพทย์ด้วย ให้เขาไปคุยกับนักจิตวิทยา เรื่องปมต่างๆ ที่เครียดอยู่ ที่สำคัญภรรยาต้องอยู่ข้างๆ ตลอด เราว่าเน วัดดาว มีภาวะอาการโรคซึมเศร้า ต้องรีบรักษา เพราะเน อ่อนแอมากตอนนี้"
ส่วนเฟซบุ๊กชื่อ "ชนิกานต์ แก้วสิงห์" ซึ่งระบุว่าเป็นภรรยาของเน วัดดาว ออกมาเปิดเผยว่า "เนชอบทำร้ายตัวเองตั้งแต่ก่อนคบกันแล้ว เป็นมานานมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี เวลาเครียดจะสติแตก เนเคยมีบัตรผู้ป่วยบำบัดทางจิตมาก่อน ตอนนี้ได้พบจิตแพทย์แล้ว หมอสั่งให้เข้าบำบัด แต่ยังไม่ยอม จึงต้องย้ายไปโรงพยาบาลอื่น ยังไม่ให้กลับบ้าน เพราะกลัวทำอะไรตัวเองอีก
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 16 เม.ย. พ.ต.ท.วรสรรค์ แสนสุข รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนญาติๆ นายมัครินทร์ หรือเน วัดดาว ให้การว่า เหตุเกิดช่วงเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมาพบว่า เน วัดดาว นั่งอยู่บนเตียงภายในห้องนอนและที่ขมับขวา มีเลือดไหล จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ศิริราช ซึ่งจากการตรวจสอบภายในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ไม่พบอาวุธปืน ร่องรอยกระสุนปืน และคราบเลือดแต่อย่างใด จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมใกล้ที่เกิดเหตุก็ไม่มีใครได้ยินเสียงปืนดัง ส่วนบาดแผลที่ขมับขวานั้น ทางแพทย์ไม่ได้ระบุว่าเป็นบาดแผลจากอาวุธปืน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เดินทางไปเพื่อสอบปากคำ เน วัดดาว ที่โรงพยาบาลมนารมย์ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ถ้าหากเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ต้องเป็นการสร้างกระแส เนื่องจาก เน วัดดาว เป็นหนึ่งในเน็ตไอดอล และมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก สำหรับภาพที่ปรากฎในสังคมออนไลน์ หลังจากนั้นก็พบว่าภาพวีดิโอดังกล่าวถูกลบออกไป อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นการสร้างกระแส หรือเป็นเรื่องจริง เน วัดดาว จะต้องถูกดำเนินตามกฎหมาย ในกรณีที่เผยแพร่ภาพในกล่าวในสื่อออนไลน์
พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย กล่าวว่า ตนได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากทางโซเชี่ยล ทำร้ายตัวเองบริเวณใบหน้า และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช พบว่า นายมัครินทร์ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าหน้าโรงพยาบาลศิริราช จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมนารมย์ ย่านบางนา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีการรักษาผู้ป่วยทางจิตและยาเสพติด
ช็อกตาค้าง!!! เกือบไปหวัน หลังนักมวยจีนโดน "ซุปเปอร์บอล บัญชาเมฆ" เตะเข้าที่หน้าเต็มๆ ถึงกับช็อกร่วงลงไปกอง (ชมคลิป)
2:29 AM
No comments
เรียกได้ว่าทำเอาแฟนมวยชาวจีนถึงกับช็อกทั้งสนาม กันเลยทีเดียว หลังจากโดนนักมวยชาวไทย "ซุปเปอร์บอล บัญชาเมฆ" เตะเข้าที่หน้า ทำเอานักมวยชาวจีนถึงกับร่วงลงไปนอนชักตาค้าง น่าสงสารจริงๆ ก็ขอให้ไม่เป็นอะไรมากนะครับ
เลื่อนดูนาทีที่ 2.52 ได้เลยค่ะโคตรถูก !! หนุ่มลาออกจากงานกลับบ้าน !! ปรับปรุงห้องนอนเก่า ให้พ่อกับแม่ด้วยงบ 10,000 บาท ทำได้จริง !?
2:18 AM
No comments
ถ้าไม่เห็นด้วยตาจะไม่เชื่อเด็ดขาด!!! หนุ่มลาออกจากงานกลับบ้าน !! ปรับปรุงห้องนอนเก่า ให้พ่อกับแม่ด้วยงบ 10,000 บาท
เกิด
ขึ้นจริงอีกราย เมื่อสถาปนิกรายหนึ่ง ลาออกจากงานในเมืองแล้วกลับมาบ้านเกิด
เดินหน้าใช้ชีวิตพอเพียง
พิสูจน์สิ่งที่ในหลวงท่านทรงคิดและตรัสไว้นั้นถูกต้อง
เขากลับมาทำตามความฝันของตัวเองและครอบครัว ทั้งการใช้ชีวิตควบคู่การการหาเลี้ยงชีวิตที่พอเพียงตามจำเป็นไม่ฟุ่มเฟือย โดยเริ่มจากการวางแผนแล้วลงแรงจากการปรับปรุงห้องนอน ให้พ่อกับแม่เป็นอันดับแรก ด้วยวัสดุที่หาได้จากบริเวณบ้านและในสวน วัสดุหลักต่างๆที่นำมาใช้ก็ล้วนได้มาจากธรรมชาตินั่นแหละ ซึ่งนั่นก็คือไม้ไผ่นั่นเอง ทั้งหมดนี้เขาใช้งบในการปรับปรุงเพียง 10,000 บาท เขาทำได้อย่างไรเรามาดูภาพพร้อมคำอธิบายประกอบกันเลย
มุมมองพื้นที่ห้องนอนเดิมก่อนและหลังปรับปรุงเสร็จแล้ว
กั้นด้านหน้าห้องนอนไว้เป็นห้องเอนกประสงค์
ห้องเอนกประสงค์อีกมุมชัดๆ
"เพราะ ว่ามีงบประมาณน้อย เลยทำอะไรมากไม่ได้ ผนังเเละโครงสร้างหลัก จึงต้องใช้เเบบเดิม เเค่ทาสี เติมเเต่ง ติดฝ้า ฯ นำไม้ไผ่จากในสวนมาใช้เป็นหลักครับ"
"ใช้หลอดไฟ ติดไว้ใต้ฝ้า เพื่อเพิ่มมิติเเละเเสงเงาในตอนกลางคืน (สามารถเอามือสอดไปเปลี่ยนหลอดไฟได้ มีช่องเปิดอยู่ครับ) ใช้สีขาว เพื่อให้ห้องเก่าๆดูสะอาดเเละให้ไม้ไผ่เด่นขึ้น มากกว่า ห้องเเละบ้านที่ได้มา มันคือความสุขเเละความภูมิใจครับ ที่เราได้ลงมือช่วยกันปรับปรุง บ้านหลังนี้ให้ดีขึ้น"
**คราวนี้ เรามาดูภาพมุมต่างๆทั้งหมดโดยละเอียดกัน**
หนุ่มลาออกจากงานกลับบ้าน !! ปรับปรุงห้องนอนเก่า ให้พ่อกับแม่ด้วยงบ 10,000 บาท ถ้าไม่เห็นด้วยตาจะไม่เชื่อเด็ดขาด
Subscribe to:
Posts (Atom)